เมนู

เมื่อเบื่อหน่ายย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัดจึงหลุดพ้น เมื่อหลุด
พ้นแล้ว ย่อมมีญาณ หยั่งรู้ว่าหลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหม-
จรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิ
ได้มี.
จบ ตติยผัสสายตนสูตรที่ 11
มิคชาลวรรคที่ 2


อรรถกถาตติยผัสสายตนสูตรที่ 11


ใน ตติยผัสสายตนสูตรที่ 11 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้
บทว่า อนสฺสาสํ แปลว่า ฉิบหายแล้ว. บทว่า ปนสฺสาสํ แปลว่า
ฉิบหายนักแล้ว. คำที่เหลือ พึงทราบตามนัยดังกล่าวแล้วแล.
จบ อรรถกถาตติยผัสสายตนสูตรที่ 11
จบ มิคชาลวรรคที่ 2


รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ


1. ปฐมมิคชาลสูตร 2. ทุติยมิคชาลสูตร 3. ปฐมสมิทธิ
สูตร 4. ทุติยสมิทธิสูตร 5. ตติยสมิทธิสูตร 6. จตุตถสมิทธิ
สูตร 7. อุปเสนสูตร 8. อุปวาณสูตร 9. ปฐมผัสสายตนสูตร
10. ทุติยผัสสายตนสูตร 11. ตติยยผัสสตนสูตร.

1. บาลี เป็น ปนสฺสาสํ

คิลานวรรคที่ 3



1. ปฐมคิลานสูตร


ว่าด้วยทรงแสดงธรรมแก่ภิกษุผู้อาพาธ


[ 88 ] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ. ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ในวิหาร
โน้น มีภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้ใหม่ ไม่ปรากฏนามและโคตร เป็นผู้อาพาธ
ถึงความทุกข์ เป็นไข้หนัก ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานโอกาส
ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าจงอาศัยความเอ็นดูเสด็จเข้าไปหาภิกษุนั้นเถิด พระ-
เจ้าข้า. ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสดับคำว่า ภิกษุ. ใหม่ และว่า
เป็นไข้ ทรงทราบชัดว่าเป็นภิกษุไม่ปรากฏชื่อและโคตร เสด็จเข้าไปหา
ภิกษุนั้น ภิกษุนั้นได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาแต่ไกล ครั้นเห็นแล้ว
ปูอาสนะไว้ที่เตียง ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะภิกษุนั้นว่า
อย่าเลยภิกษุ เธออย่าปูอาสนะไว้ที่เตียงเลย อาสนะที่เขาจัดไว้เหล่านี้มีอยู่
เราจักนั่งบนอาสนะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับนั่งบนอาสนะซึ่งเขาจัด
ไว้ ครั้นแล้วได้ตรัสถามภิกษุนั้นว่า เธอพอทนได้หรือ เธอยังอัตภาพให้
เป็นไปได้หรือ ทุกขเวทนาลดน้อยลง ไม่กำเริบหรือ ความทุเลาย่อม
ปรากฏ ความกำเริบไม่ปรากฏหรือ.
ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ทนไม่ไหว ยังอัตภาพให้
เป็นไปไม่ได้ ทุกขเวทนาของข้าพระองค์แก่กล้ายิ่งนัก ไม่ลดน้อยไปเลย
ความกำเริบปรากฏ ความทุเลาไม่ปรากฏ พระเจ้าข้า.